ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกสิบล้อหมายเลขทะเบียน 82-8541 กาญจนบุรี ชนอัดด้านท้ายของรถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน กง 7130 อ่างทอง ภายในรถยนต์มีผู้โดยสาร 5 ราย เสียชีวิตคาที่ 2 ราย คือนางปรียา ศิริรัตน์ อายุ 47 ปี และนางอำพา ศิริรัตน์ อายุ 31 ปี ทั้งสองเป็นน้าและหลานกัน อยู่บ้านเลขที่ 850/26 หมู่ที่ 2 ตำบลท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี และมีผู้บาดเจ็บอีก 3 ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์ที่จอดติดไฟแดงอีก 5 คัน ถูกชนต่อเนื่อง ชิ้นส่วนรถตกกระจายเกลื่อนท้องถนน จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้การจราจรตัดขัดเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ รถยนต์ที่ถูกชนคันแรกติดแก๊สไม่ทราบชนิด ถูกชนอย่างแรงทำให้เกิดไฟลุกไหม้ แต่โชคดีที่ พนักงานดับเพลิงเทศบาลตำบลท่าล้อ ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุสามารถดับเพลิงได้ทัน
ขณะเกิดเหตุ พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี จึงลงมาสั่งการด้วยตนเอง โดยสั่งการกำชับให้ พนักงานสอบสวนทำการตรวจสอบวัดระยะรอยเบรคของล้อรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุทุกคันอย่างละเอียด เนื่องจากเป็นอุบัติเหตุหมู่ซ้ำซ้อนกันหลายคัน ประกอบด้วยรถยนต์เบนซ์ หมายเลขทะเบียน จข 2418 กรุงเทพฯ รถยนต์ยี่ห้อ ฮ้อนด้า หมายเลขทะเบียน กฉ 9513 สุพรรณบุรี รถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า หมายเลขทะเบียน กง 3571 กาญจนบุรี และรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน กต 1423 กาญจนบุรี
สำหรับผู้บาดที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีทั้งหมด 7 ราย ประกอบด้วย นายประทิว กำเนิดดี อายุ 38 ปี นายอมร กำเนิดดี อายุ 47 ปี นายสมนึก ยังตะศรี อายุ 56 ปี นายพรากร โตแสน อายุ 22 ปี นางละมัย เศรษฐกิจดี อายุ 63 ปี นางสาวอุษา สุวรรณประเสริฐ อายุ 30 ปี และนางสาวนงนุช สุวรรณประเสริฐ อายุ 30 ปี
นายโชค หมดทุกข์ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/6 หมู่ที่ 5 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนขับรถยนต์บรรทุก ให้การว่า ตนขับรถตามหลังรถยนต์ที่เกิดเหตุมาตามปกติ ก่อนจะถึงแยกไฟแดง ขณะที่ตนกำลังหันหน้า และเอื้อมมือไปหยิบขนมข้าวเกรียบที่วางเอาไว้ที่เบาะด้านซ้ายมากิน เมื่อมองมาด้านหน้าก็พบว่ารถยนต์ที่อยู่ด้านหน้าเกิดเบรคกระทันหัน ตนจึงพุ่งชนอย่างแรงโดยไม่ทันแตะเบรคแม้แต่น้อย จึงลากรถยนต์คันดังกล่าวไปชนกับรถยนต์คันอื่นที่กำลังจอดติดไฟแดงอยู่
ด้าน ร.ต.ท. ณรงค์ ขำสุนทร พนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นจะได้คุมตัวคนขับรถบรรทุกไปสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และจำตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่งต่อไป
